บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความรู้เรื่องการป้องกันและควบคุมการเกิดการบาดเจ็บของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเอกชนในจังหวัดปทุมธานีตามเกณฑ์มาตรฐานความรู้ของ SEAR moduleของOrapan Thosingha (2011) โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 และ 3 ทั้งหมดจำนวน 340 คน (Purposive Sampling) แบ่งความรู้เป็น9หมวดได้แก่ หลักในการจัดการเพื่อควบคุมป้องกันการบาดเจ็บและการส่งเสริมความปลอดภัย,การดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บต่อเนื่อง,การพยาบาลผู้ประสบภัยพิบัติ, การบาดเจ็บจากงาน, การได้รับสารพิษ, การป้องกันและควบคุมการบาดเจ็บในเด็กเล็กและวัยรุ่น, การป้องกันและควบคุมการบาดเจ็บในผู้สูงอายุ, การป้องกันและควบคุมการบาดเจ็บในการใช้ความรุนแรง,กฎหมาย-จริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและควบคุมการบาดเจ็บ
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ค่าคะเเนน ใช้การคำนวณหาความถี่ ร้อยละ ค่าพิสัย ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์เปรียบเทียบความสัมพันธ์โดยใช้ Nonparametric test (Kruskal – Wallis test and Mann – Whitney test) และทดสอบระดับนัยสำคัญที่ระดับ .05พบว่า ความรู้ในเรื่องการป้องกันและควบคุมการบาดเจ็บของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ทั้ง2ชั้นปีไม่มีความแตกต่างกันโดยระดับคะแนนเฉลี่ยความรู้ทั้งหมดอยู่ในระดับปานกลาง คะแนนรายหมวดที่มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อยมี 2หมวดความรู้ได้แก่เรื่องการบาดเจ็บจากงานและเรื่องการใช้ความรุนแรงซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลลักษณะส่วนบุคคล พบว่า ทั้งเพศ อายุและชั้นปีที่กำลังศึกษา มีความรู้ไม่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะจากการวิจัยนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเอกชนในจังหวัดปทุมธานีควรได้รับความรู้เรื่องการป้องกันและควบคุมการบาดเจ็บเพิ่มเติมเนื่องจากนักศึกษาพยาบาลเป็นบุคลากรในทีมสุขภาพที่สามารถช่วยลดอัตราการตายและความพิการจากการบาดเจ็บได้นอกจากนี้พยาบาลที่จบการศึกษาแล้วควรได้รับการพัฒนาต่อยอดความรู้เฉพาะด้านการป้องกันและควบคุมการบาดเจ็บเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน